การ รีแพ็คเกจจิ้ง (Repackaging) สินค้า คือ การปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงบรรจุภัณฑ์ของสินค้า เพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น หรือเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้านั้นๆ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวสินค้าเอง
เทรนด์การ รีแพ็คเกจจิ้งสินค้า ในช่วงนี้เน้นไปที่การทำให้บรรจุภัณฑ์มีความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นครับ ส่วนหนึ่งเพราะผู้บริโภคเริ่มมีความสนใจในเรื่องของการลดขยะพลาสติก และเพิ่มการใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ หรือวัสดุที่สามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้ (biodegradable materials) อีกทั้งยังเน้นการออกแบบที่ทันสมัย สวยงาม และสร้างความแตกต่างในตลาดได้ชัดเจน
เทคนิคที่สามารถใช้ในการ รีแพ็คเกจจิ้งสินค้า มีหลายประการที่น่าสนใจ เช่น
7 เทคนิค รีแพ็คเกจจิ้ง (Repackaging) ให้เหมาะกับเเบรนด์ของคุณ
1. การปรับปรุงดีไซน์
เลือกใช้วัสดุใหม่: การเปลี่ยนวัสดุบรรจุภัณฑ์ให้มีคุณภาพดีขึ้น เช่น จากพลาสติกเป็นกระดาษหรือวัสดุรีไซเคิล เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
การใช้กราฟิกที่โดดเด่น: ปรับดีไซน์ให้มีความทันสมัยและสะดุดตา อาจจะเพิ่มลวดลายหรือภาพกราฟิกที่เชื่อมโยงกับสินค้าหรือแบรนด์
ทำให้สินค้าดูหรูหราขึ้น: การใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกหรูหรา เช่น ฟอยล์ทอง, การพิมพ์ลายนูน, หรือวัสดุที่มีความเงา
2. การเพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน
การออกแบบให้ใช้งานสะดวก: เช่น การเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้สามารถเปิดใช้งานได้ง่ายขึ้น หรือมีการออกแบบที่สามารถพกพาได้สะดวก
บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่: ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้บรรจุภัณฑ์เดิมได้ เช่น กระป๋องที่สามารถใช้เป็นกระถางต้นไม้ หรือขวดแก้วที่สามารถใช้บรรจุสิ่งของอื่นๆ
3. การปรับปรุงข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์
ข้อมูลที่ชัดเจนและตรงไปตรงมา: ใส่ข้อมูลที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าใจวิธีการใช้สินค้าหรือคุณประโยชน์ของมันได้ง่าย
ใช้ข้อความที่ดึงดูดความสนใจ: เช่น การเพิ่มคำโปรยหรือคำแนะนำที่ดึงดูดความสนใจ และกระตุ้นให้ผู้บริโภคสนใจในสินค้าของเรา
4. การใช้ขนาดที่เหมาะสม
การแยกขนาดบรรจุภัณฑ์ให้เลือกหลายขนาด: เช่น สินค้าที่มีหลายขนาดให้เลือกตามความต้องการของลูกค้า เช่น ขนาดทดลอง, ขนาดปกติ หรือขนาดพิเศษ
การบรรจุในปริมาณที่เหมาะสมกับการใช้งาน: บรรจุภัณฑ์ควรให้ผู้บริโภคสามารถใช้ได้จนหมดโดยไม่เหลือขยะ
5. การออกแบบให้สะท้อนถึงแบรนด์
สร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งของแบรนด์: บรรจุภัณฑ์ควรสอดคล้องกับเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น ใช้สี, ฟอนต์, หรือโลโก้ที่สะท้อนถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์
การใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์: ทำให้บรรจุภัณฑ์โดดเด่นจากคู่แข่ง เพื่อให้ลูกค้าสามารถจำสินค้าและแบรนด์ได้ง่ายขึ้น
6. การใส่เทคโนโลยีลงไปในบรรจุภัณฑ์
การใช้ QR Code: เพิ่ม QR Code เพื่อให้ลูกค้าสามารถสแกนและรับข้อมูลเพิ่มเติม เช่น วิธีการใช้งาน, โปรโมชั่น หรือเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
บรรจุภัณฑ์ที่เชื่อมต่อกับแอพพลิเคชัน: การใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชันมือถือ เช่น บรรจุภัณฑ์ที่มีฟังก์ชัน Augmented Reality (AR) ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ
7. การใช้บรรจุภัณฑ์ที่รักษาคุณภาพสินค้า
การบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของสินค้า: เช่น การใช้เทคโนโลยีที่ช่วยในการรักษาความสดใหม่ของสินค้า โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม
บรรจุภัณฑ์ที่กันน้ำหรือกันกระแทก: ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ช่วยป้องกันการเสียหายจากการขนส่ง หรือการเก็บรักษา
การรีแพ็คเกจจิ้งสินค้าเป็นเรื่องที่สามารถเพิ่มมูลค่าและทำให้สินค้าของคุณมีความโดดเด่นในตลาดได้มากขึ้น แต่ควรให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายและลักษณะของสินค้าด้วยนะ